ถึงเวลา DMT โตสนั่น โชว์กำไรปี 65 พุ่ง 93%

 

ถึงเวลา DMT โตสนั่นโชว์กำไรปี 65 พุ่ง 93%

เปิดเมือง-ต่างชาติคัมแบค หนุนรายได้ค่าผ่านทางสดใส

บอร์ดใจดีจ่ายปันผลเพิ่ม 0.88 บ./หุ้น

คาดปริมาณจราจรคึกคักต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน30

 

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMTเปิดผลงานปี 2565 โชว์กำไรสุทธิพุ่งแตะ 781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93จากปีก่อน และมีรายได้ค่าผ่านทาง1,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52จากปีก่อนเนื่องจากปริมาณจราจรบนทางยกระดับเพิ่มหลังเปิดเมือง -ต่างชาติคัมแบค บอร์ดใจดีจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.38 ./หุ้น และจ่ายงวดผลการดำเนินงานปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.50 ./หุ้นฟากเอ็มดี "ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวยตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเกิน 30หลังปริมาณจราจรคึกคัก คาดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 110,000 คันต่อวันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 85,000 คันต่อวัน

 

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT)  เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้ค่าผ่านทาง 1,832ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52จากปีก่อนที่มีรายได้1,202 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 781 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 93จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 404ล้านบาท

 

"ผลประกอบการในปี 2565 เติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากปริมาณจราจรบนทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น หลังจากนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทำให้ต่างชาติกลับเข้ามาในประเทศไทยอย่างคึกคัก  ส่งผลให้รายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น โดยปริมาณการจราจรรวมสัมปทานเดิม และตอนต่อขยายด้านทิศเหนือเฉลี่ยต่อวันมีจำนวน 85,417 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่มีจำนวน 57,105 คันต่อวัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 50% ประกอบกับภาครัฐไม่มีมาตรการการจำกัดการเดินทาง ขณะที่บริษัทฯดำเนินการบริหารการจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเป็นบริษัทฯที่ไม่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยหรือ Debt-Free Company  ส่งให้บริษัทฯมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูง สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวตลอดอายุสัมปทานดร.ศักดิ์ดา กล่าว

 

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 12 เดือน ปี 2565 จากกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 449 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Dateในวันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ภายในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566

 

และมีมตินำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 25 เมษายน 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2565 จ่ายจากกำไรสุทธิปี 2565 และกำไรสะสมให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เป็นเงินประมาณ 591ล้านบาท ทั้งนี้การประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้นนั้น ยังไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับการอนุมัติของที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น หากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติการจ่ายเงินปันผลตามที่คณะกรรมการบริษัทเสนอ บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในวันพฤหัสที่ 25 พฤษภาคม 2566 โดยจะแต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์(ประเทศไทยจำกัด เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลดังกล่าว 

กำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น(Record Dateที่มีสิทธิรับเงินปันผล คือ วันที่ 3พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่25 พฤษภาคม 2566

 

ดร.ศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผนธุรกิจในปี 2566 นั้นบริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตเกิน30จากปีก่อน เนื่องจากคาดการณ์ปริมาณการจราจรเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 110,000 คันต่อวันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยอยู่ที่ 85,000 คันต่อวัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นการคาดการณ์จากปริมาณจราจรที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดทำกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ในแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนปี 2566-2570 แบ่งออกเป็น 7 ด้าน ประกอบด้วย1.กลยุทธ์ Safer Road Traffic ManagementMaintenance เป็นกลยุทธ์หลักที่ส่งเสริมความโดดเด่นของการเป็นผู้ให้บริการ O&M ทางยกระดับ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่ต้องทำให้เกิดความ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ 2.กลยุทธ์เติบโตไปด้วยกัน Inclusive Growth เป็นกลยุทธ์ที่สร้างความเข้มแข็งขององค์กรในด้านการบริหารการจัดการต้นทุนการดำเนินงาน 3.กลยุทธ์พัฒนาธุรกิจอื่น Other Non-Toll เป็นกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและแนวคิด ซึ่งจะนำไปสู่ธุรกิจอื่นๆ และแหล่งรายได้ใหม่ๆ 4.กลยุทธ์ความยั่งยืน ESG เป็นกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจขององค์กร ในการส่งมอบคุณค่าให้แก่สิ่งแวดล้อม สังคมและ กำกับดูแลกิจการ5.กลยุทธ์ HPO Resilience Management เป็นกลยุทธ์หลักในการพัฒนาศักยภาพขององค์กรและบุคลากร ให้มีความยืดหยุ่น ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และ ปัจจัยโดยรอบ6.กลยุทธ์ DMT Excellence Recognition เป็นกลยุทธ์ที่สร้างการรับรู้ความเชี่ยวชาญและผลงานขององค์กร ผ่านการรับรองจากหน่วยงานภายนอก และ สร้างความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานเจ้าของสัมปทาน 7.กลยุทธ์การบริหารเงินสดและต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารกระแสเงินสดที่บริษัทได้รับเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยอีกทั้งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่ำลง และบริหารต้นทุนในทุกๆ ด้านให้มีประสิทธิภาพ